ในปัจจุบันการเลือกเช่าที่พักอาศัยทั้งหอพักและอพาร์ทเม้นท์ ถือว่ายังเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ที่มองหาที่พักใกล้ที่ทำงาน แต่หลายๆคนกลับไม่ยอมอ่านเงื่อนไขและข้อตกลงที่ทางหอพักได้กำหนดไว้ ส่วนมากจะเปิดผ่านๆเพื่อเซ็นชื่อหน้าสุดท้ายแล้วเข้าอยู่ทันที สุดท้ายเมื่อเกิดปัญหาขึ้นผู้เช่าจึงไม่อาจโต้แย้งได้ ทำให้เกิดคดีความระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่า มีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งวันนี้ผมมีเทคนิคและความรู้เกี่ยวกับการทำสัญญาเช่า
เลือกอ่านตามหัวข้อ
เมื่อไหร่ที่ต้องมีการทำสัญญาแน่นอนอยู่แล้วว่าควรศึกษาสัญญาให้ละเอียด ถี่ถ้วนทุกครั้ง เพราะสัญญาเช่าไม่ได้ถูกสร้างมากให้มีความเป็นธรรมกับผู้เช่าเสียเท่าไหร่ ถ้าหากว่าคุณไม่ศึกษาสัญญาก่อนเมื่อเจอปัญหาในระหว่างการเข้าพักอาศัยคุณจะไม่สามารถต่อรองได้เลย
บางครั้งเมื่อพักอาศัยไปสักพักคุณก็จะพบเจอปัญหาหลอดไฟเสีย ก๊อกน้ำชำรุด คุณก็คิดว่าสามารถเรียกเจ้าของเข้ามาซ่อมได้ทันที แต่ในความเป็นจริงแล้วเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ไม่จำเป็นต้องเข้ามารับผิดชอบก็ได้ ทางที่ดีเพื่อประโยชน์ของคุณเอง คุณจึงควรสอบถามเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อนและตกลงกับผู้เช่าให้เรียบร้อยว่ากรณีที่มีอุปกรณ์ชำรุดใครจะเป็นผู้ซ่อมแซมให้
ก่อนที่คุณจะเข้าพักอาศัยในอพาร์ทเม้นท์ควรจะสังเกตความเสียหายของห้องเสียก่อนแล้วจดรายละเอียดความเสียหายเหล่านี้ไว้พร้อมทั้งให้เจ้าของเซ็นต์รับรู้กันทั้งสองฝ่าย และถ้าถ่ายรูปไว้ได้ก็ถ่ายเก็บเอาไว้เพื่อผลประโยชน์ของตัวคุณเองเพราะเมื่อไหร่ที่คุณย้ายออกจากห้องจะได้ไม่มีปัญหามาถกเถียงกันในภายหลังว่าความเสียหายเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการเข้าพักอาศัย
ส่วนมากแล้วก่อนเข้าพักอาศัยเจ้าของห้องมักจะสัญญาว่าจะดำเนินการปรับเปลี่ยนหรือซ่อมแซมภายในห้องพักอาศัยให้ หรือเรื่องการปรับขึ้นค่าเช่าทุกปีฉะนั้นคุณจึงควรทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรแนบท้ายสัญญาไว้ด้วยเพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เจ้าของไม่ปฎิบัติตามก็นำสัญญามาใช้ในการทวงถามได้เช่นกัน
อย่าลืมว่าสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆอพาร์ทเม้นท์ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะถ้าไม่สำรวจให้ดีคุณอาจจะเข้าไปอยู่ในแหล่งที่ไม่เหมาะสม คุณจึงควรที่จะสำรวจพื้นที่ทั้งทางเข้าออกถนน ร้านค้าที่อยู่ในละแวก ให้ละเอียดจะได้ดูลู่ทางและคุณจะได้ไม่ต้องเจอปัญหาหรือต้องอยู่อย่างกังวลทุกครั้งที่เข้าออก